เป็นระยะเวลาหลายสิบปีที่คำว่า Facebook ได้เข้ามาเปรียบเสมือนชื่อที่ใช้แทนคำว่า Social Media ไปแล้ว แต่ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมาทางบริษัทยักษ์ใหญ่แห่งนี้ก็ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ทั้ง Instagram และ Whatsapp ขึ้นมา ในอนาคตข้างหน้าก็อาจจะมีผลิตภัฑณ์ใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนโลกแห่งนี้เช่นกัน การใช้ชื่อบริษัทว่าเฟสบุ๊คต่อไปจึงอาจไม่เป็นผลดีกับบริษัทมากนัก ทำให้เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา ‘มาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก’ ได้ประกาศในการประชุม Facebook Connect Augmented ว่าเขาจะเปลี่ยนชื่อบริษัทจาก Facebook มาเป็น ‘Meta’ อย่างเป็นทางการ
ทำไมเฟสบุ๊คจึงใช้ชื่อบริษัทว่า Meta
แรกเริ่มเฟสบุ๊คเป็นเพียงแค่หน้าเว็บเท่านั้นแต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นทุกวันทำให้เราสามารถสนทนาผ่านการแชท, Live, ถ่ายรูป หรือถ่ายวิดิโอลงบนแพลตฟอร์มแห่งนี้ได้และในอนาคตมาร์กก็เชื่อว่าเราจะสามารถเชื่อมต่อกันแบบเสมือนจริงมากขึ้นได้ผ่านโลกที่เรียกว่า ‘Metaverse’ ซึ่งอาจจะเป็นการใส่แว่น AR, ไฮโลแกรม หรือผ่านรูปแบบอื่น ๆ ที่เรายังคาดไม่ถึงก็ได้ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเอาชื่อบริษัทผูกเข้ากับแพลตฟอร์มเดียวเท่านั้นและเขายังบอกอีกว่าคำว่า Meta ในภาษากรีกมีความหมายว่า “เหนือกว่า, ไปไกลกว่า” บริษัทจึงใช้คำนี้เพื่อแสดงให้เห็นว่าบริษัทของเขายังทำอะไรได้อีกมากมายที่นอกเหนือจากโลกของโซเชียลมีเดียที่อยู่แค่หน้าจอมือถือหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์เท่านั้น
บริษัท Meta กำลังพัฒนาโปรเจกต์ที่ชื่อว่า ‘Horizon Home’ เพื่อให้ทุกคนสามารถเชื่อมโยงถึงกันได้มากกว่าที่เคยเปรียบเสมือนในโลกของเกมที่เราเป็นตัวละครเหล่านั้นและสามารถเทเลพอร์ตไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อพบปะพูดคุย, ไปงานคอนเสิร์ต หรือเล่นเกมกับคนอื่น ๆ ที่อยู่ในโลก Metaverse ได้โดยจะทุ่มงบกว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้าเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้และผู้พัฒนาก็หวังว่าในอีก 5-10 ปีข้างหน้าโลกของ Metaverse จะก้าวขึ้นมาเป็นสื่อกระแสหลักได้ เนื่องจากในขณะนี้มาร์กก็ได้กำลังพัฒนาอุปกรณ์ด้านเทคโนโลยี VR และ AR ต่าง ๆ ซึ่งที่ได้มีการเปิดตัวมาแล้วก็มีหูฟัง Oculus VR และตอนนี้ก็กำลังเร่งออกแบบอุปกรณ์แว่นตาและสายรัดข้อมือ AR เพื่อรองรับโลกเสมือนจริงแห่งนี้
หลังจากเปลี่ยนชื่อบริษัทแล้วจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือไม่?
- หุ้นของบริษัท
แต่เดิมหุ้นของบริษัทที่ใช้ชื่อว่า FB จะเปลี่ยนมาเป็น MVRS โดยจะเริ่มให้ซื้อขายกันภายใต้ชื่อใหม่นี้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564
- แพลตฟอร์มในเครือของบริษัท
หลายคนอาจจะกังวลว่าหลังจากเปลี่ยนชื่อแล้วจะส่งผลอะไรต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเราหรือไม่ ซึ่งต้องบอกเลยว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียอื่น ๆ เช่น Facebook, Instagram และ WhatsApp จะไม่ได้รับผลกระทบใด ๆ เรายังสามารถใช้งานได้เหมือนเดิมตามปกติ
- ชื่อตำแหน่งใหม่ของ CEO
นี่ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบ 17 ปีที่มาร์กจะมีตำแหน่งใหม่ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นมา โดยชื่อตำแหน่งใหม่ของเขาก็ คือ ซีอีโอและประธานของ Meta ทำให้นโยบายหลักของบริษัทเปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน แต่เดิมจะใช้คำว่า ‘Facebook-first’ เปลี่ยนมาเป็น ‘Metaverse-first’
การเปลี่ยนชื่อบริษัทครั้งนี้มีนักวิเคราะห์คาดว่าอาจจะเป็นเพราะมาร์กต้องการกอบกู้ชื่อเสียงของเฟสบุ๊คกลับคืนมาอีกด้วยหลังจากที่มีอดีตพนักงานเปิดโปงว่า Facebook เผิกเฉยในด้านผลกระทบทางลบจากสื่อต่อกลุ่มคนบางกลุ่มโดยเฉพาะวัยรุ่นผู้หญิง แต่อย่างไรก็ตามบริษัทนี้ไม่ใช่ธุรกิจแรกที่เปลี่ยนชื่อในช่วงวิกฤตหรือเบี่ยงประเด็นเพราะธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่าง Google, Dunkin หรือ Philip Morris ก็เคยเปลี่ยนชื่อมาแล้วเช่นกัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะส่งผลไปทางด้านไหนบ้างและโลก Metavese จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไรต่อชีวิตประจำวันของเราบ้างต้องคอยติดตามกันต่อไป